DSpace Collection:
http://www.repository.rmutt.ac.th/xmlui/handle/123456789/78
2023-09-05T09:38:17Zเอกสารประกอบการสอน เรื่อง สัญลักษณ์สากลในการดูแลรักษาผ้า สำหรับนักศึกษารายวิชาเทคโนโลยีการซัก อบ รีด คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
http://www.repository.rmutt.ac.th/xmlui/handle/123456789/4200
Title: เอกสารประกอบการสอน เรื่อง สัญลักษณ์สากลในการดูแลรักษาผ้า สำหรับนักศึกษารายวิชาเทคโนโลยีการซัก อบ รีด คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
Authors: โสภาพรรณ ซอหะซัน
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างเอกสารประกอบการสอน เรื่อง สัญลักษณ์สากลในการดูแลรักษาผ้า สำหรับนักศึกษารายวิชาเทคโนโลยีการซัก อบ รีด คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 2) ศึกษาความรู้ของนักศึกษาในรายวิชาเทคโนโลยีการซัก อบ รีด คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษารายวิชาเทคโนโลยีการซัก อบ รีด คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่มีต่อเอกสารประกอบการสอน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาปริญญาตรี ชั้นปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 สาขาวิชาสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กลุ่มที่ 1 จำนวน 22 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ ข้อสอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจต่อเอกสารประกอบการสอน เรื่อง สัญลักษณ์สากลในการดูแลรักษาผ้า แบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าความยากง่ายและค่าอำนาจจำแนก ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน และวิเคราะห์ความแตกต่างด้วยค่าสถิติ t - test แบบ Dependent ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.01
ผลการวิจัย พบว่า 1) หลังการเรียนศึกษาเอกสารประกอบการสอน เรื่อง สัญลักษณ์สากลในการดูแลรักษาผ้า สำหรับนักศึกษารายวิชาเทคโนโลยีการซัก อบ รีด นักศึกษามีค่าเฉลี่ยของคะแนนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียน โดยมีค่าเฉลี่ยของคะแนนหลังเรียน 15.45 ( x̄ = 15.45, S.D. = 2.04) และค่าเฉลี่ยของคะแนนก่อนเรียน 12.64 ( x̄ = 12.64, S.D. = 1.92) คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ 2) นักศึกษามีความพึงพอใจต่อเอกสารประกอบการสอนสัญลักษณ์สากลในการดูแลรักษาผ้าในระดับมากที่สุด คือ สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการดูแลรักษาเสื้อผ้าและซัก อบ รีด ( x̄ = 4.55, S.D. = 0.66) รองลงมา คือ ความรู้การดูแลรักษาผ้าตามสัญลักษณ์สากลในการดูแลรักษาผ้าโดยภาพรวม ( x̄ = 4.50, S.D. = 0.79) ตามลำดับ; The objectives of this research were to: 1 ) create instructional documents on International Symbols in Fabric Care for Laundry Technology course, Faculty of Home
Economic Technology Rajamangala University of Technology Thanyaburi, 2) study teaching
documents on international symbols in fabric care. For students of the laundry technology
course Faculty of Home Economics Technology Rajamangala University of Technology
Thanyaburi, and 3) study the satisfaction of students in the course of Laundry Technology,
Faculty of Home Economics Technology Rajamangala University of Technology Thanyaburi.
The research sample was 22, selected by cluster random sampling, the 3 r d - y e a r
undergraduate students studying in the 2nd semester of the academic year 2022 in Laundry
Technology course, Faculty of Home Economics Technology Rajamangala University of
Technology Thanyaburi. The research instruments were 20 items of 4 multiple-choice test
and a satisfaction questionnaire on satisfaction with the instructional document on the
International Symbols in Fabric Care which was a 5-rating scale. The statistics used in data
analysis were percentage, difficulty, and power of discrimination, standard deviation, and
t-test (Dependent) at a statistical significance level of 0.01.
The research results showed that 1) the average score of the post-studying using
the instructional documents was higher than the pre-studying ( x̄ = 12.64, S.D. = 1 . 9 2 ,
x̄ = 15.45, S.D. = 2.04) which were significantly higher at the 0.01 level. 2) The students
were satisfied with the document at the highest level ( x̄ = 4.55, S.D. = 0.66) and satisfaction
in the overall was at a high level ( x̄ = 4.50, S.D. = 0.79).2564-01-01T00:00:00Zการศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการให้บริการงานเอกสารการพิมพ์ของบุคลากรคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
http://www.repository.rmutt.ac.th/xmlui/handle/123456789/4160
Title: การศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการให้บริการงานเอกสารการพิมพ์ของบุคลากรคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
Authors: วัลวิกาล์ ไพศาลศรี
Abstract: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการให้บริการงานเอกสารการพิมพ์ของคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 2) เพื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจที่มีต่อการให้บริการงานเอกสารการพิมพ์ของคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล กลุ่มตัวอย่างคือ บุคลากรสายวิชาการและสายสนับสนุน คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีจำนวน 30 คน โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลคือแบบสอบถามออนไลน์สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ t-test และ F-test (One Way ANOVA)
ผลการวิจัยพบว่า 1) ความพึงพอใจต่อการให้บริการงานเอกสารการพิมพ์ของคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีความพึงพอใจสูงสุด คือ ด้านการให้บริการของเจ้าหน้าที่ รองลงมาคือ ด้านคุณภาพการให้บริการ ด้านกระบวนการให้บริการ และด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ตามลำดับ 2) ผลการเปรียบเทียบความพึงพอใจที่มีต่อการให้บริการงานเอกสารการพิมพ์ของคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลด้านเพศ อายุ ประเภทบุคลากร ตำแหน่ง และประสบการณ์การทำงาน มีความพึงพอใจที่มีต่อการให้บริการงานเอกสารการพิมพ์ไม่แตกต่างกันในทุกปัจจัยที่นัยสำคัญทางสถิติ 0.05; The objectives of this research were to: 1) study the satisfaction towards the Printing Service of the Faculty of Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi; and 2) compare satisfaction towards the Printing Service of the Faculty of Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, classified by individual factors. The research sample was 30, selected by purposive random sampling, from personnel of academic and support lines in the Faculty of Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi. The research instrument was an online questionnaire. The statistics used for the data analysis were descriptive statistics, including frequency, percentage, mean, standard deviation, and inferential statistics, including the t-test and F-test (one-way ANOVA).
The research results were as follows: 1) The satisfaction with the Printing Service of the Faculty of Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, was overall at a high level. The most satisfying aspect was the service aspect of the staff, followed by the quality of service, service process, and facilities respectively. 2) The results of comparing the satisfaction towards the Printing Service of the Faculty of Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi found that personal factors in terms of gender, age, type of personnel, position, and work experience showed that the satisfaction toward the printing document service was statistically non-significant difference in every factor at the level of 0.05.2565-01-01T00:00:00Zความคาดหวังของสถานประกอบการที่มีต่อคุณลักษณะของนักศึกษา ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
http://www.repository.rmutt.ac.th/xmlui/handle/123456789/4071
Title: ความคาดหวังของสถานประกอบการที่มีต่อคุณลักษณะของนักศึกษา ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
Authors: ศิริพร เจริญศรีวิริยะกุล
Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความคาดหวังของสถานประกอบการที่มีต่อคุณลักษณะของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และ 2) เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลส่วนบุคคลของสถานประกอบการที่ส่งผลต่อความคาดหวังในคุณลักษณะของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ สถานประกอบการที่เคยรับนักศึกษาเข้าฝึกประสบการณ์วิชาชีพของคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลธัญบุรี ในปีการศึกษา 2563 – 2564 จำนวน 117 แห่ง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล คือ แบบสอบถาม ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ Independent samples t-test, One-way ANOVA และวิเคราะห์ความแตกต่างรายคู่โดยใช้ LSD
ผลการศึกษาพบว่า 1) ความคาดหวังของสถานประกอบการที่มีต่อคุณลักษณะของนักศึกษา ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (μ= 4.06, σ= 0.23) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน มีความคาดหวังอยู่ในระดับมากทุกด้าน ได้แก่ ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (μ= 4.23, σ= 0.47) ด้านความรู้ (μ= 4.11, σ= 0.58) ด้านคุณธรรมจริยธรรม (μ= 4.09, σ= 0.43) ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ (μ= 3.99, σ= 0.44) ด้านทักษะทางปัญญา (μ= 3.88, σ= 0.49) ตามลำดับ 2) ผลการเปรียบเทียบความคาดหวัง พบว่า เพศที่ต่างกันมีความคาดหวังที่มีผลต่อคุณลักษณะของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพไม่แตกต่างกัน ตำแหน่งงานและประเภทสถานประกอบการ ที่แตกต่างกันมีความคาดหวังที่มีผลต่อคุณลักษณะของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพด้านความรู้และด้านทักษะทางปัญญาแตกต่างกัน ส่วนขนาดของสถานประกอบการ ที่แตกต่างกันมีความคาดหวังที่มีผลต่อคุณลักษณะของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบแตกต่างกัน และประเภทสถานประกอบการ ที่แตกต่างกันมี ความคาดหวังที่มีผลต่อคุณลักษณะของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพด้านทักษะการวิเคราะห์ เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05; This research aimed to 1) study the Expectations of Establishments on the Desired Characteristics of the Students for Professional Experience Practice under the Faculty of Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, and 2) compare personal information individually that affects establishments on their expectations of the desired characteristics of the professional experience practice students. The research population included 117 establishments involved in the professional experience practice of the Faculty of Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi. The research instrument was a set of questionnaires. The percentage, mean and standard deviation, independent sample t-test, one-way ANOVA, and multiple comparison test by LSD were used for data analysis.
The findings showed that 1) the overall expectation of the establishments on the desired characteristics of the professional experience practice students was at a high level (μ= 4.06, σ= 0.23). The individual factor consideration was also at a high level: numerical analysis skills, communication and information technology skills (μ= 4.23, σ= 0.47), knowledge (μ= 4.11, σ= 0.58), morals and ethics (μ= 4.09, σ= 0.43), interpersonal skills and accountability (μ= 3.99, σ= 0.44), and cognitive skills (μ= 3.88, σ= 0.49). 2) The expectation comparison was found that gender showed no relation to the expectations of the establishments. Job positions and types of establishments showed different expectations in terms of knowledge and cognitive skills. The size of establishments influenced the expectations on interpersonal skills and accountability and types of establishments showed different expectations in terms of numerical analysis skills, communication and information technology statistically significant difference at the level of 0.05.2564-01-01T00:00:00Zผลกระทบของการจัดทำแบบทดสอบออนไลน์สำหรับนักศึกษา คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
http://www.repository.rmutt.ac.th/xmlui/handle/123456789/4070
Title: ผลกระทบของการจัดทำแบบทดสอบออนไลน์สำหรับนักศึกษา คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
Authors: วัลวิกาล์ ไพศาลศรี
Abstract: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการจัดทำแบบทดสอบออนไลน์สำหรับนักศึกษา คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 2) เพื่อเปรียบเทียบผลกระทบของการจัดทำแบบทดสอบออนไลน์ของนักศึกษาคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูล คือ แบบสอบถามออนไลน์ กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ปีการศึกษา 2564 จำนวน 320 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบตามสะดวก (Convenience Sampling) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ t-test และ F-test (One Way ANOVA)
ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลกระทบของการจัดทำแบบทดสอบออนไลน์สำหรับนักศึกษาคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่าทุกด้านมีผลกระทบอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีผลกระทบสูงสุด คือ ด้านผู้สอน รองลงมา คือ ด้านการวัดประเมินผล ด้านผู้เรียน ด้านข้อสอบ และด้านการจัดการ ตามลำดับ 2) ผลการเปรียบเทียบผลกระทบของการจัดทำแบบทดสอบออนไลน์ของนักศึกษาคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลด้านเพศ ชั้นปีที่ศึกษา ผลการเรียนรวม (เกรดเฉลี่ย) รายได้ต่อครอบครัว สถานที่ที่ใช้ในการทำข้อสอบและอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนออนไลน์มีผลกระทบต่อการจัดทำแบบทดสอบออนไลน์ไม่แตกต่างกันในทุกปัจจัยที่นัยสำคัญทางสถิติ 0.05; The purpose of this research was to 1) study the factors impact of the
implementation of online testing on the students at the Faculty of Home Economics
Technology Rajamangala University of Technology Thanyaburi, 2) compare the impact
of the implementation of online testing on the students at the Faculty of Home
Economics Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, classified by
personal factors. The online questionnaire was used as a research tool for data collecting
from the sample group. Samples for the research obtained by convenience sampling
were 320 undergraduate students at the Faculty of Home Economics Technology,
Rajamangala University of Technology Thanyaburi, in the academic year 2021. The data
was analyzed by using descriptive statistics: frequency, percentage, mean and standard
deviation as well as inferential statistics: t-test, F test (One Way ANOVA).
The results showed that, 1) in overall, the impact of the online testing
implementation on the students at the Faculty of Home Economics Technology,
Rajamangala University of Technology Thanyaburi was at a high level. When considering
in each aspect, it was found that the impact of all factors was at a high level. The most
impacted factor is the teacher factor followed by evaluation factor, student factor,
examination factor and management factor respectively. 2) Comparison of the impact
of the implementation of online testing on the students at the Faculty of Home
Economics Technology, Rajamangala University of Technology Thanyaburi at the
confidence interval of 5% revealed that the personal factors of gender, year of study,
total grades (GPA), family income, the place used to take the exam and equipment used for online learning had impacts on online testing implementation with no difference.2564-01-01T00:00:00Z