Please use this identifier to cite or link to this item:
http://www.repository.rmutt.ac.th/xmlui/handle/123456789/2867
Title: | การพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง บทประยุกต์โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI ร่วมกับเทคนิค KWDL ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 |
Other Titles: | The development of problem - solving ability in mathematics proposition by incorporating cooperative learning TAI technique into KWDL technique for prathomsuksa 5 students |
Authors: | กัญญาภรณ์ สีนินทิน |
Keywords: | ทักษะการแก้โจทย์ปัญหา เทคนิค KWDL เทคนิค TAI |
Issue Date: | 2558 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี. คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม. สาขาวิชาการวิจัยและพัฒนาหลักสูตร. |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิชาคณิตศาสตร์
ก่อนเรียนและหลังเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยวิธีปกติ 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการแก้โจทย์
ปัญหาวิชาคณิตศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยวิธีการจัดการ
เรียนรู้เทคนิค TAI ร่วมกับเทคนิค KWDL และ 3) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิชา
คณิตศาสตร์หลังเรียนของนักเรียน ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยวิธีปกติและการจัดการเรียนรู้เทคนิค
TAI ร่วมกับเทคนิค KWDL
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดป่าไผ่ จังหวัดสระบุรี ภาคเรียน
ที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวนทั้งสิ้น 60 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้
แบบร่วมมือเทคนิค TAI ร่วมกับเทคนิค KWDLและแผนการจัดการเรียนรู้แบบปกติ 2) แบบทดสอบ
ทักษะการแก้โจทย์ปัญหา สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า 1) ทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่ได้รับการจัด
การเรียนรู้โดยวิธีปกติหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ทักษะการ
แก้โจทย์ปัญหาวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยวิธีการจัดการเรียนรู้เทคนิค
TAI ร่วมกับเทคนิค KWDL หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ
3) ทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยวิธีการจัดการ
เรียนรู้เทคนิค TAI ร่วมกับเทคนิค KWDLสูงกว่าการจัดการเรียนรู้โดยวิธีปกติ อย่างมีนัยสำคัญทาง
สถิติที่ระดับ .05 The research objectives were to 1) compare the students’ problem - solving skills in mathematics proposition before and after studying with conventional approach, 2) compare the students’ problem - solving skills in mathematics proposition before and after studying with TAI technique and KWDL technique, and 3) compare the students’ problem - solving skills in mathematics proposition between the experimental group and the control group. The samples of this study were 60 Prathomsuksa 5 students studying at Watpapai School, Saraburi province in the academic year 2/2015. Research instruments were 1) instructional plans based on incorporating TAI technique into KWDL technique and instructional plans based on traditional approach, 2) evaluation form on analytical problem - solving propositional skills. The data were analyzed by descriptive statistics including mean, standard deviation and dependent sample t-test. The findings were as following: 1) the students’ posttest of problem - solving skills in mathematics proposition studied by traditional approach was higher than the pretest at statistically significant difference .05, 2) the students’ posttest of problem - solving skills in mathematics proposition studied by incorporating TAI technique into KWDL technique was higher than the pretest at statistically significant difference .05, and 3) the students’ problem - solving skills in mathematics proposition studied by incorporating TAI technique into KWDL technique was higher than those with conventional approach at statistically significant difference .05. |
URI: | http://www.repository.rmutt.ac.th/dspace/handle/123456789/2867 |
Appears in Collections: | วิทยานิพนธ์ (Thesis-TECHED) |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
RMUTT-151519.pdf | The development of problem - solving ability in mathematics proposition by incorporating cooperative learning TAI technique into KWDL technique for prathomsuksa 5 students | 3.15 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.