การวิเคราะห์แบบภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษา จังหวัดปทุมธานีสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)/ศึกษาภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษา จังหวัดปทุมธานี 2)เปรียบเทียบภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษา จังหวัดปทุมธานี จำแนกตามขนาดของสถานศึกษา ประสบการณ์การทำงาน และผลการประเมินภายนอกรอบ 3 ของสถานศึกษา และ 3) ศึกษาความสัมพันธ์ของภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษา จังหวัดปทุมธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี จำนวน 252 คน ที่ได้จากการกำหนดขนาดตัวอย่างโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป G*Power 3.1.9.2 โดยใช้วิธีการสุ่มแบบชั้นภูมิ และสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบ สอบถามประเมินค่า 5 ระดับ จำนวน 36 ข้อ มีค่าความเที่ยงอยู่ระหว่าง 0.875 - 0.982 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อหาข้อมูล ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบความแปรปรวนแบบทางเดียว (One – Way ANOVA) และการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson Product Moment Correlation Coefficient) ผลการวิจัยพบว่า 1) ภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษา จังหวัดปทุมธานี โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน 2) ผู้บริหารสถานศึกษามีภาวะผู้นำแตกต่างกันตามขนาดของสถานศึกษา เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ภาวะผู้นำของผู้บริหาสถานศึกษาขนาดกลางกับขนาดใหญ่ และขนาดใหญ่กับขนาดใหญ่พิเศษ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 แต่เมื่อจา แนกตามประสบการณ์ในการทำงาน และผลการประเมินภายนอกรอบ 3 ของสถานศึกษา พบว่า แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ 3) ภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาทุกแบบมีความสัมพันธ์กันทางบวกในระดับมาก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01

The purposes of this study were to 1) examine the leadership of school administrators under Pathum Thani Primary Education Service Area Office, 2) compare the leadership of school administrators under Pathum Thani Primary Education Service Area Office in accordance of schools’ sizes, working experience and the results of the third round of external evaluation, and 3) study the relationship of leadership of school administrators under Pathum Thani Primary Education Service Area Office. The subjects of the study consisted of 252 administrators and teachers under Pathum Thani primary education service area office who were determined from the sample using the software package G* power 3.1.9.2 by using stratified random sampling and simple random sampling. The research instrument was a 36-item of 5-point rating scale questionnaire, which the reliability was between 0.875 to 0.982. The data were analyzed by using the software package to find out percentage, mean, standard deviation, one-way analysis of variance (One way ANOVA), and Pearson Product Moment correlation coefficient. The results were as follow: 1) the leadership of school administrators under Pathum Thani Primary Education Service Area office was at a high level for the whole and individual aspects, 2) the school administrators had different leadership according to the school sizes. In individual aspects, it was found that the relationship of the school administers of medium and large school sizes, large and extra-large school sizes had the statistical significance level of 0.05, while there was no statistical significant difference at the level of 0.05 on working experience and the result of the third round of external evaluation and 3) every leadership style of the school administrators had high positive relationship at the statistical significance level of 0.01.