การจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะบนเฟซบุ๊กที่มีต่อผลการเรียนรู้ และเจตคติต่อวิทยาศาสตร์ของเยาวชน

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะบนเฟซบุ๊ก 2) เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ก่อนเรียนและหลังเรียนของเยาวชนที่เรียนจากการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะบนเฟซบุ๊ก 3) เพื่อศึกษาเจตคติต่อวิทยาศาสตร์ของเยาวชนที่เรียนจากการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะบนเฟซบุ๊ก และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของเยาวชนที่เรียนจากการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะบนเฟซบุ๊ก กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือ เป็นเยาวชนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ที่เข้าร่วมกิจกรรมค่ายวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์ ณ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติจำนวน 30 คน ซึ่งได้จากการสุ่มอย่างง่าย ด้วยวิธีการจับสลาก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1) แผนการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะบนเฟซบุ๊ก 2) แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ 3) แบบวัดเจตคติต่อวิทยาศาสตร์ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระต่อกัน ผลการวิจัย พบว่า 1) คุณภาพของการจัดเรียนการสอนแบบสืบเสาะบนเฟซบุ๊กอยู่ในระดับดี 2) ผลการเรียนรู้ของเยาวชนหลังจากการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะบนเฟซบุ๊ก สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) เจตคติต่อวิทยาศาสตร์ของเยาวชนที่ผ่านการเรียนการสอนแบบสืบเสาะบนเฟซบุ๊กหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 4) ความพึงพอใจของเยาวชนที่เรียนจากการเรียนการสอนแบบสืบเสาะบนเฟซบุ๊กอยู่ในระดับมาก

The purposes of this research were 1) to develop the inquiry based instructional management on Facebook; 2) to compare learning outcome before and after learning of youth who studied with inquiry based instructional management on Facebook; 3) to study the scientific attitude of youth via inquiry based instructional management on Facebook; and 4) to study the satisfaction of youth who studied with inquiry based instructional management on Facebook. The samples were 30 of the lower secondary education students who participated in science camp activity at National Science Museum, chosen by simple random sampling using a lottery method. Research instruments consisted of 1) lesson plans for inquiry based instructional management on Facebook, 2) learning outcome test, 3) scientific attitude test, and 4) satisfaction questionnaire. Statistics used for data analysis were mean, standard deviation, and dependent samples t-test. The research revealed that 1) the quality of inquiry based instructional management on Facebook was at a good level; 2) the post-test scores for learning outcome of youth were higher than the pre-test scores with statistically significant difference at the .05 level; 3) the post-test scores for scientific attitude of the youth were higher than the pre-test scores with statistically significant difference at the .05 level; and 4) the satisfaction of youth after learning with inquiry based instructional management on Facebook was at a high level.