ศึกษากระบวนการบริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอาเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี

Abstract

การวิจัยครั้งนี้ เป็นการศึกษากระบวนการบริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบล ในเขตอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี โดยผู้วิจัยได้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดังนี้ ศึกษาระดับของกระบวนการบริหารและประสิทธิผลของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ศึกษาความสัมพันธ์ของกระบวนการบริหารกับประสิทธิผลของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และศึกษากระบวนการบริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบล ในเขตอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี โดยยึดกรอบแนวทางการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งผู้วิจัยได้ดำเนินการเก็บข้อมูลจากแบบสอบถามที่รวบรวมเก็บได้ จากกลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย แบบสอบถามจากนายก รองนายก หัวหน้าส่วนการศึกษา นักวิชาการศึกษา ครูผู้ดูแลเด็ก จำนวน 54 ชุด และผู้ปกครองเด็ก จำนวน 214 ชุด รวมทั้งสิ้นจำนวน 268 ชุด โดยใช้เครื่องมือวิจัย เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น แบ่งออกเป็น 3 ตอน คือ ตอนที่ 1 สถานภาพของกลุ่มตัวอย่าง ตอนที่ 2 ถามเกี่ยวกับความคิดเห็นของบทบาทผู้บริหารกับประสิทธิผลของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี โดยมีกระบวนการบริหาร 7 ด้าน คือ การวางแผน การจัดองค์การ การบริหารงานบุคคล การอำนวยการหรือสั่งงาน การประสานงาน การรายงาน และการจัดงบประมาณ ตอนที่ 3 ถามเกี่ยวกับ ความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิผลทั้ง 4 ด้านของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี คือ หลักสูตรที่เหมาะสม พัฒนาการและการเรียนรู้ ความปลอดภัย สถานที่ และสภาพแวดล้อม ความร่วมมือของชุมชน การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การคำนวณหาค่าเฉลี่ย การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของผู้เชี่ยวชาญ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน หาค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่น ตามวิธีของครอนบาร์ค การวิเคราะห์หาค่าความสัมพันธ์ระหว่าง สัมประสิทธิ์ของเพียร์สัน การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ แบบขั้นตอน สรุปผลการวิจัย เมื่อพิจารณาตอนที่ 1 เป็นแบบสำรวจรายการที่สอบถามเกี่ยวกับสถานภาพของกลุ่มตัวอย่าง จากข้อมูลของผู้บริหาร พบว่า เพศหญิงมีมากกว่าเพศชาย อายุที่มากที่สุดเป็นช่วง อายุ 26-35 ปี และเมื่อพิจารณาตามวุฒิการศึกษาส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับปริญญาตรี ตำแหน่งหน้าที่ ส่วนใหญ่ คือ ครูผู้ดูแลเด็ก เมื่อพิจารณาจากข้อมูลของผู้ปกครองแล้วพบว่า เพศหญิงมีมากกว่าเพศชาย อายุที่มากที่สุดเป็นช่วงอายุ 26-35 ปี และเมื่อพิจารณาตามวุฒิการศึกษา ปรากฏว่า ประถมศึกษามากที่สุด สถานภาพมากที่สุด คือ มารดา ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้าง จากผลการศึกษาสามารถนำมาอภิปรายได้ ดังนี้ 1. ระดับของกระบวนการบริหารกับประสิทธิผลของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ใน 7 ด้าน ระดับปฏิบัติการอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก ซึ่งพบว่า การวางแผน อยู่ในระดับสูงที่สุด และการจัดงบประมาณ มีค่าต่ำที่สุด 2. ระดับของประสิทธิผลของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ใน 4 ด้าน พบว่า ระดับปฏิบัติการอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก ซึ่งพบว่า ความร่วมมือของชุมชนอยู่ในระดับสูงที่สุด และหลักสูตรที่เหมาะสมมีค่าต่ำที่สุด 3. ความสัมพันธ์ของกระบวนการบริหารกับประสิทธิผลของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี พบว่า กระบวนการบริหารมี 7 ด้าน มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จำนวน 2 ด้าน คือ ด้านที่มีความสัมพันธ์กันสูงสุด คือ ด้านการจัดงบประมาณ และด้านที่มีความสัมพันธ์กันต่ำสุด คือ ด้านการรายงาน 4. กระบวนการบริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ซึ่งพบว่า การรายงาน และการจัดงบประมาณ มีความสัมพันธ์กับกระบวนการบริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งมีความสัมพันธ์กันทางลบ จากงานวิจัยสรุปได้ว่า กระบวนการบริหาร ทั้ง 7 ด้าน โดยให้ความสำคัญกับ การวางแผน เพราะเป็นหัวใจของการบริหารจัดการทุกอย่างต้องมีการวางแผนมาเป็นอันดับแรกเสมอ ส่วนด้านประสิทธิผลของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ใน 4 ด้าน ให้ความสำคัญกับ ความร่วมมือของชุมชน ส่วนความสัมพันธ์ของกระบวนการบริหารกับประสิทธิผลของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอ ลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ด้านที่มีความสัมพันธ์กันสูงสุด คือ ด้านการจัดงบประมาณ และด้านที่มีความสัมพันธ์กันต่ำสุด คือ ด้านการรายงาน มีความสัมพันธ์กับกระบวนการบริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05