การพัฒนาชุดการสอนเชิงปฏิสัมพันธ์ด้วยวิธีการแบบเรียนปนเล่น เรื่อง คำศัพท์ภาษาจีน สำหรับเด็กนักเรียนชั้นปฐมวัย

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดการสอนเชิงปฏิสัมพันธ์ด้วยวิธีการแบบเรียนปนเล่น เรื่อง คำศัพท์ภาษาจีน สำหรับเด็กนักเรียนชั้นปฐมวัย ให้ผ่านตามเกณฑ์ให้มีคุณภาพ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ ก่อนและหลังเรียน และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ เด็กนักเรียนระดับชั้นปฐมวัย โรงเรียนปิยวัฒนศาสตร์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จำนวน 45 คน ได้มาโดยใช้การสุ่มแบบเจาะจง Purposive Random Sampling เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย ชุดการสอนเชิงปฏิสัมพันธ์ด้วยวิธีการเรียนปนเล่น (Play Way) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาจีน และแบบสังเกตความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดการสอนด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบเรียนปนเล่น คำศัพท์ภาษาจีน สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การทดสอบค่าทีของกลุ่มตัวอย่างที่ไม่เป็นอิสระจากกัน ผลการวิจัยพบว่า 1) ชุดการสอนเชิงปฏิสัมพันธ์ด้วยวิธีการเรียนปนเล่น มีคุณภาพด้านสื่อ อยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.74 และมีคุณภาพด้านเนื้อหาอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 2) ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 6.50/15.60 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อบทเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.60

The purposes of this research were to: 1) develop an interactive instructional package for teaching Chinese vocabulary to preschool students using learning through play methods, 2) compare learning achievement before and after using the interactive instructional package, and 3) study student’s satisfaction. The samples in this research were 45 primary school students at Piyawattanasat school, Thanyaburi district, Pathum Thani province. They were selected by purposive random sampling. The research instruments used in this research were the interactive instructional package, the learning achievement test, and observation checklist on students’ satisfaction towards the interactive instructional package. The statistics used to analyze data in this research were mean, standard deviation, and the t-test of dependent sample. The results of the research showed that: 1) the interactive instructional package was at a very good level with an average of 4.74 and had a very good content quality with an average of 4.58, 2) students’ learning achievement was higher than before using the interactive instructional package with an average of 6.50/15.6, and with the statistical significance at the .05 level and 3) students’ satisfaction towards the interactive instructional package was at the highest level with an average of 4.60.