การพัฒนาแอปพลิเคชันการออกกำลังกายด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมเพื่อส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพแอปพลิเคชันการออกกำลังกายด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมเพื่อส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ 2) เปรียบเทียบสมรรถภาพทางกายด้านความอ่อนตัวของผู้สูงอายุก่อนและหลังการฝึกออกกำลังกายด้วยแอปพลิเคชันการออกกำลังกายด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมเพื่อส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ และ 3) ศึกษาหาความพึงพอใจของผู้สูงอายุที่มีต่อการใช้แอปพลิเคชันความเป็นจริงเสริม เรื่อง การออกกำลังกายด้วยแอปพลิเคชันการออกกำลังกายด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมเพื่อส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จำนวน 30 คน ได้มาด้วยวิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แอปพลิเคชันการออกกำลังกายด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมเพื่อส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายด้านความอ่อนตัว แบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีของกลุ่มตัวอย่างไม่อิสระ ผลการวิจัยพบว่า การเรียนรู้และใช้งานผ่านแอปพลิเคชันการออกกำลังกายด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมเพื่อส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ KW1 80.80 เท่ากับ KW1 80/83.33 ผลสัมฤทธิ์ทางด้านสมรรถภาพทางกายด้านความอ่อนตัวหลังการใช้งานแอปพลิเคชันสูงกว่าก่อนใช้งาน โดยมีคะแนนเฉลี่ยก่อนการใช้งานแอปพลิเคชันเท่ากับ 5.91 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 6.76 ค่าคะแนนเฉลี่ยหลังการใช้งานแอปพลิเคชันเท่ากับ 6.15 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 6.53 มีการทดสอบค่าทีระหว่างหลังการใช้งานแอปพลิเคชันมากกว่า 2.80 มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และความพึงพอใจของผู้สูงอายุที่มีต่อการใช้แอปพลิเคชันการออกกำลังกายด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมเพื่อส่งเสริมสุขภาพของ มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.64 อยู่ในระดับมากที่สุด

This research aimed to: 1) develop and find the effectiveness of augmented reality application for exercise to promote health among elderly, 2) compare physical fitness in terms of flexibility of the elderly before and after exercising by augmented reality application for exercise to promote health among elderly, and 3) study elderly satisfaction towards the use of augmented reality application for exercise to promote health among elderly. The samples of this study were 30 elderly in Bueng Namrak, Thanyaburi District, Pathum Thani Province. The samples were selected through a purposive sampling technique. The instruments used in this research included augmented reality application for exercise to promote health among elderly, physical fitness test in terms of flexibility, and satisfaction form. The statistics used in this research were percentage, mean, standard deviation and t-test for independent samples. The results showed that learning and using augmented reality application for exercise to promote health among elderly was effective according to KW1 80.80 at KW1 80/83.33. The physical fitness in terms of flexibility after using the application was higher than before using the application. The physical fitness in terms of flexibility before using the application was 5.91 in average, with standard deviation of 6.76, whereas the average after using the application was 6.15, with the standard deviation of 6.53. The t-test value after using the application was 2.80 at a statistically significant level of .05. The satisfaction of the elderly towards the use of augmented reality application for exercise to promote health among elderly was 4.64 in average, which was at the highest level.