Please use this identifier to cite or link to this item:
http://www.repository.rmutt.ac.th/xmlui/handle/123456789/2034
Title: | ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพชีวิตในการทำงานกับความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานในธุรกิจน้ำอัดลม |
Other Titles: | Relationship between Quality of Work life and Employee Engagement of Soft Drink Business |
Authors: | นิรมล กุลพญา |
Keywords: | คุณภาพชีวิตในการทำงาน ความผูกพันต่อองค์กร |
Issue Date: | 2556 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี. คณะบริหารธุรกิจ. วิชาเอกการจัดการทั่วไป |
Abstract: | การค้นคว้าอิสระครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ ระดับคุณภาพชีวิตในการทำงาน ระดับความผูกพันต่อองค์กร ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านประชากรศาสตร์กับความผูกพันต่อองค์กร และความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพชีวิตในการทำงานกับความผูกพันต่อองค์กร
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ พนักงานบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กลุ่ม ตัวอย่าง คือ พนักงานบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) จังหวัดชลบุรีและจังหวัดปทุมธานี จำนวน 310 คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ Independent Samples t-test, One-way ANOVA, LSD, การหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
ผลการศึกษาพบว่า พนักงานส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุ 36 ปีขึ้นไป อายุงานตั้งแต่ 11 ปีขึ้นไป ระดับการศึกษาอนุปริญญาหรือปวส. ส่วนใหญ่เป็นพนักงานฝ่ายผลิต มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 16,000 บาท ระดับคุณภาพชีวิตในการทำงานของพนักงานโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.108 ระดับความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานโดยรวมอยู่ในระดับสูง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.751 เพศของพนักงานที่แตกต่างกันส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์กรที่ไม่แตกต่างกัน และพบว่า อายุ อายุงาน ระดับการศึกษา ฝ่ายปฏิบัติงานและรายได้ต่อเดือนของพนักงานมีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์กรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 คุณภาพชีวิตในการทำงานโดยรวมและรายด้านทุกด้านมีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์กรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยด้านลักษณะงานมีส่วนเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับสังคมโดยตรงมีความสัมพันธ์ระดับสูง คือ มีค่า
สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 0.602 The independent study was conducted to investigate demographic factors, level of quality of work life, level of employee engagement, relationship between demographic factors and employee engagement, and relationship between the quality of work life and employee engagement. The sample used in the study consisted of 310 employees of Serm Suk Public Company Limited in Chonburi and Pathumthani. The statistics used for data analysis comprised Percentage, Mean, Standard Deviation, Independent Samples t-test, One-way ANOVA, Least Significant Difference, and Pearson Correlation Coefficient. The results of the study showed that most respondents were male, aged over 36 years old, had more than 11 years of work experience, graduated with diploma or high vocational certificate,worked in production unit, earned an average monthly income of more than 16,000 Baht. The overall quality of work life of the employees was at a moderate level with a mean of 3.108, while the overall employee engagement was at a high level with a mean of 3.751. Different gender did not affect the employee engagement, and it was found that age, work experience, level of education, position, and monthly income had relationship with the employee engagement at 0.05 level of significance. The overall and individual aspect of quality of work life had relationship with the employee engagement at 0.05 level of significance, and the type of work showed a high-level relationship with the social integration with a correlation of 0.602. |
URI: | http://www.repository.rmutt.ac.th/dspace/handle/123456789/2034 |
Appears in Collections: | การค้นคว้าอิสระ (Independent Study - BUS) |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
139315.pdf | ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพชีวิตในการทำงานกับความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานในธุรกิจน้ำอัดลม | 5.21 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.