กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่มีผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) เพื่อศึกษาการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน และประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ของอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน (2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ขวัญและกำลังในในการปฏิบัติงานและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน (3) เพื่อศึกษาการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน ที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ พนักงานที่ปฏิบัติงานในโรงงานอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนในเขตจังหวัดปทุมธานี จำนวน 369 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันและ การวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง ผลการวิจัย พบว่า 1) ระดับความเห็นด้านกระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ อยู่ในระดับปานกลางถึงสูง, 2) ด้านความสัมพันธ์ของปัจจัย พบว่า ตัวแปลทั้งหมดมีค่าความสัมพันธ์ในระดับสูง (r = 0.752) และ 3) แบบจำลองโครงสร้างของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ และขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน มีผลต่อประสิทธิภาพ มีค่า Chi-square = 53.339, p-value = 0.031, df = 36, GFI = 0.977, RMSEA = 0.036 นอกจากนี้ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ และขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน มีอิทธิพลทางตรงต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน โดยมีค่าน้ำหนักอิทธิพลเท่ากับ 0.36 (p = 0.041) และ 0.61 (p = 0.001) ตามลำดับ

The purposes of this research were (1) to study human resource management, working morale, and work efficiency of the automotive and auto parts industry, (2) to explore the relationships among human resource management, working morale, and work efficiency, and (3) to investigate the effects of human resource management and working morale on work efficiency. The samples were 369 staff who were working in the automotive and auto parts factories in Pathum Thani. The research instrument was the questionnaire while statistics used for data analysis included confirmatory factor analysis (CFA) and Structural Equation Modeling (SEM). The results revealed that 1) the levels of opinion of human resource management ranged from medium level to high level, 2) the result of the relationships indicated that all variables were related at high level (r = 0.752), and 3) the structural models of human resource management and morale in job performance affected work efficiency Chi-square = 53.339, p-value = 0.031, df = 36, GFI = 0.977, and RMSEA = 0.036. Besides, human resource management and working morale had the direct effect on work efficiency with weight parameters of the effects equaled to 0.36 (p = 0.041) and 0.61 (p = 0.001), respectively.