ปัจจัยทางด้านลักษณะบุคลิกภาพและคุณลักษณะงานที่มีอิทธิพลต่อการปรับตัวในการทำงานของพนักงานในกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความสัมพันธ์และอิทธิพลของปัจจัยลักษณะบุคลิกภาพ ปัจจัยคุณลักษณะงานและปัจจัยการปรับตัวในการทำงานของพนักงานในกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ เขตนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ พนักงานระดับปฏิบัติการที่เป็นพนักงานในกลุ่มโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในเขตนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จำนวน 399 คน โดยใช้แบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา มีค่าความเชื่อถือได้เท่ากับ 0.956 สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงโครงสร้างด้วยการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นกับข้อมูลเชิงประจักษ์ด้วยการวิเคราะห์ความสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และวิเคราะห์อิทธิพลโดยใช้สมการโครงสร้าง ผลการวิจัย พบว่า ระดับความคิดเห็นของปัจจัยด้านลักษณะบุคลิกภาพ ด้านคุณลักษณะงานและด้านการปรับตัวในการทำงานเกือบทั้งหมดอยู่ในระดับสูง ส่วนความสัมพันธ์ของปัจจัย พบว่า ตัวแปรทั้งหมดมีความสัมพันธ์กันในระดับสูง มีค่าอยู่ระหว่าง 0.184 ถึง 0.517 นอกจากนั้นการศึกษาอิทธิพลของปัจจัยลักษณะบุคลิกภาพและคุณลักษณะงานที่มีผลต่อการปรับตัวในการทำงาน พบว่า มีความกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยค่าไค-สแควร์ มีค่าเท่ากับ 62.006, องศาอิสระ (df) มีค่าเท่ากับ 48, P-value เท่ากับ 0.084 ดัชนีวัดระดับความกลมกลืน (GFI) มีค่าเท่ากับ 0.976 ส่วนค่า RMR เท่ากับ 0.009 เมื่อพิจารณาเส้นสัมประสิทธิอิทธิพลในแบบจำลองสมการโครงสร้าง พบว่า คุณลักษณะงานมีอิทธิพลต่อการปรับตัวในการทำงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ β = 0.17, p > 0.05 และบุคลิกภาพมีอิทธิพลต่อการปรับตัวในการทำงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ β = 0.65, p > 0.001

The purpose of this study was to study the relationship and influence of the factors of personality, job characteristics, and work adaptation of staff working in the auto parts industry in Navanakorn Industrial Estate, Pathum Thani. The samples were 399 operational staff who were working in the auto parts factories in Navanakorn Industrial Estate. The research instrument was the questionnaire already tested for the content validity with reliability of 0.956. Due to data analysis, confirmatory factor analysis (CFA) was used to analyze the construct validity. Meanwhile, Pearson Correlation was utilized to analyze empirical data, and Structural Equation Modeling (SEM) was used to analyze any influences. The results revealed that the levels of opinion of personality, job characteristics, and work adaptation were mostly at high level. Due to the relationships among the factors, the results indicated that all variables were related at high level with the values between 0.184 and 0.517. Owing to the study of the factors of personality and job characteristics affecting work adaptation, the results were relevant to empirical data ( x[superscript2] = 62.006, df = 48, p-value = 0.084, GFI= 0.976, and RMR = 0.009). Regarding the standard coefficient in Structural Equation Modeling (SEM), the result revealed that job characteristics significantly had the influences on work adaptation at β = 0.17, p > 0.05 while personality significantly had the influences on work adaptation at β = 0.65, p > 0.001.