คุณภาพชีวิตในการทำงานที่มีผลกระทบต่อความผูกพันต่อองค์กร : กรณีศึกษา บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน)

Abstract

การค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลและคุณภาพชีวิตในการทำงานที่มีผลกระทบต่อความผูกพันของพนักงานบริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) โดยพิจารณาจากด้านจิตใจ ด้านการดำรงอยู่และด้านบรรทัดฐาน การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในศึกษาคือ พนักงานบริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) จำนวน 220 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือสถิติเชิงพรรณนาประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมานที่ใช้ทดสอบสมมติฐานประกอบด้วย Independent Samples t-test, One-Way ANOVA และ Multiple Linear Regression ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 26-30 ปี สถานภาพ สมรส การศึกษาระดับปริญญาตรี อายุการทำงาน 3-10 ปี รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 15,001-20,000 บาท ปฏิบัติงานในตำแหน่งพนักงานทั่วไปและสังกัดฝ่ายเทคนิคกลางการผลิต ความคิดเห็นต่อคุณภาพชีวิตในการทำงานโดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลางแต่ด้านความรับผิดชอบของสังคมและด้านสภาพแวดล้อมอยู่ในระดับมาก ส่วนความคิดเห็นต่อความผูกพันต่อองค์กรโดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลางโดยด้านบรรทัดฐานอยู่ในระดับมาก ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า อายุ เงินเดือนสถานภาพ และตำแหน่งที่แตกต่างกันมีผลต่อความผูกพันต่อองค์กร ปัจจัยคุณภาพชีวิตในการทำงานประกอบด้วยความก้าวหน้าและความมั่นคงในงาน ความรับผิดชอบของสังคม สิทธิของพนักงานและสภาพแวดล้อมในการทำงานมีอิทธิพลต่อความผูกพันองค์กร สามารถทำนายสมการได้ร้อยละ 61.9 และมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณเท่ากับ 0.626

The objectives of this independent study were to examine personal factors and quality of work life factors that affected employee commitment at Bangkok Glass Public Company Limited. The quality of work life in the aspects of mind, living, and norm were considered. This study was a quantitative research. The sample group was 220 employees of Bangkok Glass Public Company Limited. Data were collected using questionnaires. The descriptive statistics used to analyze data were frequency, percentage, mean, and standard deviation. The inferential statistics used to test hypotheses were Independent Samples t-test, One-Way ANOVA, and Multiple Linear Regression at the statistical significance level of 0.05. The results demonstrated that most respondents were female, 26-30 years old, married, Bachelor’s degree educational level, 3-10 years of working experience, 15,001-20,000 baht of average monthly income, working as general staff at the technician center of the production department. The attitudes on quality of work life were moderate in total aspect, but were high in social responsibility and environment aspects. The attitudes on organizational commitment were moderate in total aspect except for the normative aspect which was high. The hypotheses results found that differences in age, salary, marital status, and work position affected organizational commitment. The quality of work life in the aspects of stability and advancement of work, social responsibility, employee rights, and working environment influenced organizational commitment with 61.90% of ability to predict, and the multiple regression coefficient value (R) was 0.626.