การเปรียบเทียบการปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณวิชาชีพของผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนตามทัศนะของผู้บริหารสถานศึกษาและครูในสถานศึกษาเอกชน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัดปทุมธานี

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับการปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณวิชาชีพของผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนตามทัศนะของผู้บริหารสถานศึกษาและครูในสถานศึกษาเอกชน สังกัด สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จังหวัดปทุมธานี และ 2) เปรียบเทียบการปฏิบัติตน ตามจรรยาบรรณวิชาชีพของผู้บริหารสถานศึกษาเอกชน จำแนกตามบทบาท ประเภทสถานศึกษา ระดับการศึกษา และประสบการณ์ในการอบรมเกี่ยวกับจรรยาบรรณวิชาชีพ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูในสถานศึกษาเอกชน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จังหวัดปทุมธานี ที่จัดการเรียนการสอนขั้นพื้นฐานและอาชีวศึกษา เป็นผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 60 คน และครู จำนวน 479 คน รวม 539 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามความคิดเห็นแบบมาตรวัดประเมินค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (T-Test) การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) โดยการทดสอบค่าเอฟ (F-Test) และทำการทดสอบความแตกต่างรายคู่ตามวิธีการของ Scheffe’s และ Dunett’s C ผลการวิจัย พบว่า 1) ผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนมีการปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณวิชาชีพตามทัศนะของผู้บริหารสถานศึกษาและครู โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก 2) การศึกษาเปรียบเทียบการปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพของผู้บริหารสถานศึกษา จำแนกตามบทบาท ระดับการศึกษา และประสบการณ์ในการอบรมเกี่ยวกับจรรยาบรรณวิชาชีพ พบว่า โดยภาพรวมและรายด้านมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่เมื่อจำแนกตามประเภทสถานศึกษา พบว่าไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

This research aimed to 1) study the performance level of private school administrators working under the Office of Private Education Commission in Pathum Thani Province in accordance to the professional code of ethics, and 2) compare their performances in terms of their duties and responsibilities, types of academic institutions, educational backgrounds, and experiences gained from the professional code of ethics training. The participants of this study were 60 principals and 479 teachers working in general and vocational private schools under the supervision of the Office of Private Education Commission in Pathum Thani Province. The research instrument used for collecting data was Likert five-point scale questionnaires. The data were analyzed using percentage, mean, standard deviation, t-test, one-way ANOVA, Scheffe’s test, and Dunett’s test. The findings revealed that the school administrators performed, as a whole and on all aspects, within the professional code of ethics at the high level. In addition, their duties and responsibilities, educational backgrounds, and experiences received from the training on the professional code of ethics also affected their their performances, as a whole and on all aspects, at a significance level of .05. The variation in types of academic institutions, on the other hand, had no statistically significant effect.