การตัดสินใจใช้บริการร้านสะดวกซื้อภายในสถานีบริการน้ำมันของผู้บริโภคในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ตั้งอยู่บนถนนสายเอเชียและถนนมิตรภาพ

Abstract

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการตัดสินใจใช้บริการร้านสะดวกซื้อภายในสถานีบริการน้ำมันของผู้บริโภคในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ตั้งอยู่บนถนนสายเอเซียและถนนมิตรภาพกลุ่มตัวอย่างคือผู้ใช้บริการร้านสะดวกซื้อในสถานีบริการน้ำมันจำนวน 400 คน โดยใช้แบบสอบถามในการรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐานคือ Independent Samples t-test, One-way ANOVA และ LSD ผลการศึกษา พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่ใช้บริการร้านสะดวกซื้อภายในสถานีบริการ น้ำมันส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 15-25 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 15,000- 30,000 บาท ในกรณีที่ผู้ใช้บริการมีโอกาสเข้ามาใช้บริการสถานีบริการน้ำมันจะทำการซื้อสินค้าจากร้านสะดวกซื้อเป็นบางครั้งขึ้นอยู่กับความจำเป็น โดยส่วนใหญ่ซื้อสินค้าประเภทเครื่องดื่มเป็นหลักเหตุผลที่เข้ามาใช้บริการร้านสะดวกซื้อเนื่องจากแวะเข้ามาเพื่อเติมน้ำมันและต้องการซื้อสินค้า โดยมีความถี่ในการใช้บริการเฉลี่ยจำนวน 4-6 ครั้งต่อเดือน และมีค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าเฉลี่ยต่อครั้งเท่ากับ 51-100 บาท และจากผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ผู้ใช้บริการที่มีอายุแตกต่างกัน ให้ระดับความสำคัญของพนักงานผู้ให้บริการแตกต่างกัน ส่วนผู้ใช้บริการที่มีระดับการศึกษาที่แตกต่างกัน จะ ให้ระดับความสำคัญทางด้านผลิตภัณฑ์ ราคา และการส่งเสริมการตลาดแตกต่างกัน และผู้ใช้บริการที่ มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนแตกต่างกัน ให้ระดับความสำคัญของผลิตภัณฑ์ ราคา สถานที่จัดจำหน่าย และ ลักษณะทางกายภาพแตกต่างกัน นอกจากนี้พบว่า ผู้ใช้บริการที่มีโอกาสในการซื้อสินค้าเมื่อมาใช้ บริการสถานีน้ำมันแตกต่างกัน มีการตัดสินใจใช้บริการร้านสะดวกซื้อแตกต่างกันในทุกด้าน

The purpose of this study was to investigate consumers’ decision making when using convenience store services in petrol stations located on Asia Highway and Mittraphap Road in Phra Nakhon Si Ayutthaya Province. The sample of the study was comprised of 400 customers who used the convenience store services in the petrol stations. A questionnaire was administered to collect data, and the data were analyzed by using percentage, mean, and standard deviation. Statistics used to analyze the hypotheses of this study included Independent Samples t-test, One-way ANOVA, and LSD. The findings revealed that most of the samples who used the convenience store services were female, aged 15-25 years, held a bachelor’s degree, and had a monthly income of 15,000 – 30,000 baht. When coming into the petrol station, customers occasionally bought products in the stores depending on their needs, mostly beverages. The reasons given for dropping in the petrol statation were to fuel their cars and buy products in the convenience store. The frequency of using convenience store services was 4-6 times per month, and each time 51-100 baht was spent in the store. For the hypothesis testing, it was found that customers of different ages gave different levels of importance to the staffs’ services and customers with different levels of education gave different levels of importance to products, prices and sales promotions. Likewise, customers with different monthly incomes gave different levels of importance to products, prices, locations, and physical conditions. It was also found that customers bought products in the stores on different occasions and had different decision making processes when using the convenience store services in every aspect.