อิทธิพลระหว่างการรับรู้ความสามารถในตนเอง การรับรู้ลักษณะงานที่ตนปฏิบัติและคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงานที่มีต่อผลการปฏิบัติงานของบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับการรับรู้ความสามารถในตนเองของบุคลากร การรับรู้ลักษณะงานที่ตนปฏิบัติคุณภาพชีวิตในการทำงาน และผลการปฏิบัติงาน 2) อิทธิพลระหว่าง การรับรู้ความสามารถในตนเอง การรับรู้ลักษณะงานที่ตนปฏิบัติ และคุณภาพชีวิตในการทำงานที่มี ต่อผลการปฏิบัติงาน และ 3) เปรียบเทียบการรับรู้ความสามารถในตนเอง การรับรู้ลักษณะงานที่ตน ปฏิบัติ คุณภาพชีวิต ในการทำงาน และผลการปฏิบัติงานของบุคลากรสายวิชาการกับสายสนับสนุนใน สถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่ โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่บุคลากรที่ปฏิบัติงานในสถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่ในกรุงเทพฯ และปริ มณฑล ทั้งสายวิชาการและสายสนับสนุน จำนวน 400 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบนำเข้า และการทดสอบความแตกต่างค่าเฉลี่ยระหว่าง 2 กลุ่มที่เป็นอิสระต่อกัน ผลการวิจัย พบว่า 1) ระดับ การรับรู้ความสามารถในตนเองของบุคลากร การรับรู้ลักษณะงานที่ตนปฏิบัติ คุณภาพชีวิตในการทำงาน และผลการปฏิบัติงานของบุคลากรในภาพรวมและรายด้าน อยู่ในระดับ มาก 2) การรับรู้ความสามารถในตนเอง การรับรู้ลักษณะงานที่ตนปฏิบัติ และคุณภาพชีวิตในการทำงานเป็นตัวแปรที่ มีอิทธิพลต่อผลการปฏิบัติงานของบุคลากรโดยตัว แปรอิสระทั้งหมดสามารถทำนายตัวแปรตามในการวิเคราะห์ได้ร้อยละ 67.9 และพบว่า 3) การรับรู้ลักษณะงานที่ตนปฏิบัติ คุณภาพชีวิตในการทำงาน และผลการปฏิบัติงานโดยรวม มีความแตกต่างกันในระหว่างบุคลากรสายวิชาการกับบุคลากรสายสนับสนุนในสถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่

This research aimed to 1) find out the level of perceived self-efficacy, job characteristics, quality of working life and job performance of both academic and support staff working in the new university association 2) investigate the influence of perceived self-efficacy, job characteristics and quality of working life towards their job performance, and 3) compare the four mentioned aspects. The samples of this study were 400 academic and support staff working in the new university association in Bangkok metropolitan region. A questionnaire was used to collect data. Descriptive statistics used for data analysis included Percentage, Mean, Standard Deviation, Multiple Regression Analysis with Enter method, and Independent Samples t-test. The results revealed that 1) the level of perceived self-efficacy, job characteristics and quality of working life and job performance of both academic and support staff was at a high level in either overall and individual aspects. 2) Their perceived self-efficacy, job characteristics and quality of working life influenced their job performance with the predictive equation (Adjusted R Square) of 67.9 percent. 3) Both groups had different perceived self-efficacy, job characteristics, quality of working life and job performance.