ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของฝ่ายผลิต บริษัท พีแซท คัสสัน ประเทศไทย จำกัด

Abstract

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของฝ่ายผลิต บริษัท พีแซทคัสสัน ประเทศไทย จำกัด โดยประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือพนักงานที่ปฏิบัติงานในฝ่ายผลิตจำนวน 155 ท่าน สถิติที่ใช้ในการศึกษาข้อมูลประกอบด้วย ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์สมมุติฐานระหว่างตัวแปรด้วยการแจกแจงแบบที การวิเคราะห์ความแปรปรวนและการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรด้วยวิธีสหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 18-41 ปี การศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี รายได้ 7,500-12,900 บาทต่อเดือน ลักษณะงานห่อสบู่ มีสถานภาพโสด และประสบการณ์ต่ำกว่า 10 ปี ข้อคิดเห็นด้านประสิทธิภาพในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ผลการทดสอบสมมุติฐานพบว่า อายุ และ สถานภาพที่แตกต่างกันไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพแตกต่างกัน ตัวแปรที่เหลือคือ เพศ ระดับ การศึกษา รายได้ ลักษณะงาน และประสบการณ์ ที่แตกต่างกันส่งผลต่อประสิทธิภาพที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ผลสหสัมพันธ์พบความสัมพันธ์ไปทิศทางเดียวกันโดยอยู่ในระดับปานกลางสำหรับปัจจัยด้านเครื่องจักรที่ส่งผลต่อ ประสิทธิภาพในภาพรวม ส่วนปัจจัยด้านภาวะผู้นำที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในภาพรวม ผลสหสัมพันธ์พบความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันที่ระดับปานกลาง มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันทั้งในด้านการผลักดัน การควบคุมอารมณ์ และด้านความสัมพันธ์กับผู้ใต้บังคับบัญชา

The purpose of this independent study was to examine factors influencing the working efficiency of the production department in PZ Cussons Thailand Company Limited.

The data was collected from 155 employees in the production department. The statistics applied for the data analysis consisted of frequency, percentage, mean, standard deviation, Independent Samples t-test, One-way ANOVA, and Pearson’s correlation coefficient.

The results of the study showed that the majority of the employees were single; female aged 18-41 years, having been working as bar soap wrappers for less than 10 years, with a monthly income of 7,500-12,000 Thai baht. Their opinions on working efficiency were at high level. The results of hypothesis testing showed that different age and marital status had no influence on their working efficiency while differences in gender, educational background, monthly income, job description and working experience resulted in significantly different working efficiency. The results of correlation analysis revealed that the overall opinions on machine factors correlated with their working efficiency at a moderate level. When considering the leadership factors, their working efficiency was also correlated at a moderate level in the aspects of motivation, emotional control and relationship with subordinates.