ความสัมพันธ์ระหว่างความผูกพันของพนักงาน ปัจจัยการคงอยู่ในองค์การและประสิทธิภาพการทำงาน : กรณีศึกษา พนักงานบริษัทเอกชนกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในเขตอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

Abstract

การค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความผูกพันของพนักงาน ปัจจัยการคงอยู่ในองค์การและประสิทธิภาพการทำงานในบริษัทเอกชนกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ในเขตอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี กลุ่มตัวอย่างสำหรับการศึกษาครั้งนี้ คือ พนักงาน จำนวน 400 คน โดยใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบไม่ใช่ความน่าจะเป็นด้วยเทคนิคการเลือกแบบโควตา เพื่อเลือกกลุ่มตัวอย่างที่หลากหลายตามสัดส่วนของประชากร และเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของงานวิจัย เครื่องมือในการเก็บข้อมูลปฐมภูมิ คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ สัมประสิทธิ์ สหสัมพันธ์ ผลการศึกษา พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชายที่มีสถานภาพโสด มีอายุ อยู่ระหว่าง 25-35 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี มีระดับรายได้ประมาณ 15,000-20,000 บาท และปฏิบัติงานในบริษัทเป็นเวลา 1-5 ปี และปัจจุบันทำงานอยู่ในแผนกการผลิต ผลการทดสอบ สมมุติฐานแสดงว่า โดยภาพรวมความผูกพันในองค์การมีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการทำงาน ไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 0.422 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ความผูกพันด้านจิตใจ ความผูกพันด้านการคงอยู่ และความผูกพันด้านบรรทัดฐานมีความสัมพันธ์กับ ประสิทธิภาพการดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และมีค่า สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 0.422 0.343 และ 0.301 ตามลำดับ นอกจากนี้ ปัจจัยการคงอยู่ในองค์การมีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการทำงานไปใน ทิศทางเดียวกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 0.529

This independent study aims to study the relationship between employee commitment, organizational retention factors and work performance of employees of private companies in electronics industry in Khlong Luang District, Pathumthani Province. The samples used in this study were 400 employees selected by a non-probability sampling method with quota sampling technique for recruiting diverse samples in accordance with the population proportion, and to attain the research objective. The instrument for primary data collection was a questionnaire. Data were analyzed by correlation coefficient. The study results were found that the majority of questionnaire respondents were singlemales, aged between 25-35 years old, graduated with bachelor’s degree with monthly incomes between 15,000-20,000 baht, worked for the 1-5 years, and were currently working in the production department. The overall hypothesis testing result revealed that employee commitment was correlated with work performance in the same direction with the correlation coefficient of 0.422. When each aspect was considered, it was found that affective commitment, continuance commitment and normative commitment rere correlated with work performance in the same direction at the statistical significance level of 0.01, and with the correlation coefficient of 0.422, 0.343 and 0.301 respectively. In addition, the organizational retention factors were correlated with work performance in the same direction at the statistical significance level of 0.01, and with correlation coefficient of 0.529.