ปัจจัยเชิงกลยุทธ์ที่มีอิทธิพลต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจยางพารา ในประเทศไทย

Abstract

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยเชิงกลยุทธ์ที่มีอิทธิพลผลต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจยางพาราในประเทศไทย โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ บริษัทที่ประกอบธุรกิจยางพาราในประเทศไทย ซึ่งแบ่งเป็นข้อมูลปฐมภูมิ 75 ชุดข้อมูลและข้อมูลทุติยภูมิจำนวน 75 บริษัท วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลงานวิจัยครั้งนี้เป็น การวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงบรรยาย และ การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสมการเชิงเส้นถดถอยพหุคูณ ได้แก่ แบบสอบถามส่วนที่หนึ่งเป็นแบบสอบถามข้อมูลกิจการ แบบสอบถามส่วนที่สองเป็นกลยุทธ์กิจการ และแบบสอบถามส่วนที่สามเป็นผลการดำเนินงาน โดยลักษณะของแบบสอบถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) วิเคราะห์ผลโดยใช้วิธีการหาค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation : S.D.) และค่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรกลยุทธ์กิจการกับตัวแปรผลการดำเนินงาน ผลการวิเคราะห์ข้อมูลกิจการ พบว่าบริษัทส่วนใหญ่มีทุนจดทะเบียนอยู่ในระดับไม่เกิน 50 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวมไม่เกิน 100 ล้านบาท และมีกำลังการผลิตไม่เกิน 60,000 เมตริกตันต่อปี และมีอัตราส่วนสินทรัพย์คงที่ไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์ จากผลการวิจัยพบว่า กลยุทธ์กิจการมีอิทธิพลเชิงบวกต่อผลการดำเนินงาน ได้แก่ ค่าใช้จ่ายขนส่งและการจัดกลุ่มเป้าหมายผลิตภัณฑ์มีอิทธิพลเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนทางธุรกิจ เวลาการผลิตและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์มีอิทธิพลเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานด้านความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ ราคาวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายการผลิตมีอิทธิพลเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานด้านมูลค่าการขาย เวลาการผลิต ค่าใช้จ่ายการผลิต นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และการจัดกลุ่มเป้าหมายผลิตภัณฑ์มีอิทธิพลเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานด้านผลกำไร

This research aimed to study the relationship of strategic factors that influenced firm performance of the rubber business in Thailand. The samples used in the research were rubber companies that operated in Thailand, which were divided into 75 primary data sets and 75 secondary data sets. The data analysis method of the research included analysis of descriptive statistical data and data analysis with multiple linear regression. The first part of the questionnaire was the business data. The second part was the business strategy. The third part of the questionnaire was firm performance. The questionnaires used a rating scale. The results were analyzed by mean, standard deviation (SD) and the relationship between business strategy variables and firm performance variables. The results of the business data analysis showed that most companies had a registered capital of not more than 50 million baht, total assets not exceeding 100 million baht, production capacity not exceeding 60,000 metric tons per year, and also had a fixed asset ratio of not more than 30. The business strategy had a positive influence on firm performance. For instance, transportation cost and product segmentation had a positive influence on business sustainability performance; production time and product innovation had a positive influence on business competitiveness; raw material prices and production costs had a positive influence on sales revenue, and production time, production cost, product innovation and product segmentation had a positive influence on profit.