ปัจจัยแรงจูงใจและปัจจัยค้ำจุนที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจลาออกของพนักงานเจเนอเรชัน Z ในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต จังหวัดปทุมธานี

Abstract

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับปัจจัยแรงจูงใจ ปัจจัยค้ำจุน และความตั้งใจลาออกของพนักงานเจเนอเรชัน Z 2) เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลที่แตกต่างกันต่อความตั้งใจลาออกของพนักงานเจเนอเรชัน Z และ 3) เพื่อศึกษาอิทธิพลปัจจัยแรงจูงใจและปัจจัยค้ำจุนที่ส่งผลต่อความตั้งใจลาออกของพนักงานเจเนอเรชัน Z กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ ประชาชนที่ทำงานแล้วจำนวน 400 คน อายุตั้งแต่ 18 - 25 ปี โดยทำการศึกษาในเขตอำเภอเมือง อำเภอลำลูกกา อำเภอคลองหลวง และอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามที่ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรง เชิงเนื้อหาและความเชื่อมั่น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย การวิเคราะห์ค่าทีแบบอิสระ การวิเคราะห์ความแปรปรวนจำแนกทางเดียว และสมการถดถอยพหุคูณเชิงเส้น ผลการศึกษา พบว่า โดยรวมระดับปัจจัยแรงจูงใจ และปัจจัยค้ำจุน มีค่าอยู่ในระดับมาก ส่วนความตั้งใจลาออกโดยรวม มีค่าอยู่ในระดับปานกลาง ผลการเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า เพศ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ที่แตกต่างกันไม่มีผลต่อความตั้งใจลาออกของพนักงานเจเนอเรชัน Z แตกต่างกัน ส่วนอายุ สถานภาพ และระดับการศึกษา ที่แตกต่างกันมีผลต่อความตั้งใจลาออกของพนักงาน เจเนอเรชัน Z แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นอกจากนี้ยังพบว่า ปัจจัยแรงจูงใจ ด้านความสำเร็จ และด้านลักษณะของงานที่ปฏิบัติ มีอิทธิพลต่อความตั้งใจลาออกของพนักงานเจเนอเรชัน Z อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และปัจจัยค้ำจุนด้านความมั่นคงในงาน และด้านความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชา มีอิทธิพลต่อความตั้งใจลาออกของพนักงานเจเนอเรชัน Z อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

The purposes of this study were: 1) to assess the extent of motivation factor, hygiene factor and the resignation intention of Generation Z employees, 2) to compare the intention to resign of Generation Z employees who have differences in personal factors, and 3) to investigate the influences of motivation and hygiene factors on the intention to resign of Generation Z employees. The sample group used in this study comprised 400 employees aged 18 - 25 years working in Mueang, Lam Luk Ka, Khlong Luang, and Lat Lum Kaeo districts of Pathum Thani province. The research tool used to collect data was a questionnaire that passed assessment in terms of content validity and reliability. The statistics used to analyze data were mean, independent sample t-test, one-way ANOVA, and multiple linear regression. The study results showed that overall, motivation and hygiene factors were present at a high level whereas the overall resignation intention was at a moderate level. Differences in personal factors of gender and average monthly income did not affect the intention to resign of Generation Z employees. Conversely, differences in age, marital status, and educational achievement all influenced the intention to resign of Generation Z employees at a statistically significant level of .05. Moreover, the elements of motivation factor including achievement and work itself influenced the intention to resign of Generation Z employees at a statistically significant level of .05. Likewise, the elements of hygiene factor with respect to job security and employer-employee relationships also had effects on the intention to resign of Generation Z employees at a statistically significant level of .05.