คุณภาพชีวิตในการทางานที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงาน บริษัท อินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด

Abstract

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยลักษณะส่วนบุคคล และปัจจัยด้านคุณภาพชีวิตในการทางานที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ พนักงาน บริษัท อินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด จำนวน 180 คนสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานส่วนสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ Independent Samples t-test, One-Way ANOVA และ Multiple Linear Regressions ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยลักษณะส่วนบุคคลด้านเพศ ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ส่วนปัจจัยลักษณะส่วนบุคคลด้านอายุ การศึกษา รายได้ ตำแหน่ง และอายุงาน มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ พนักงานมีระดับความคิดเห็นต่อคุณภาพชีวิตในการทำงานโดยรวมอยู่ในระดับสูง โดยมีคุณภาพชีวิตในการทำงาน ด้านสภาพการทำงานที่ปลอดภัยเป็นอันดับสูงที่สุด และมีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานโดยรวมอยู่ในระดับสูง โดยมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านปริมาณงานเป็นอันดับสูงที่สุด ผลการทดสอบสมมุติฐานคุณภาพชีวิตในการทางานที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานพบว่าคุณภาพชีวิตในการทำงานด้านสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและด้านความเป็นประชาธิปไตยในการทำงาน มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านคุณภาพงาน โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ เท่ากับ 0.00 และ 0.20 ตามละดับ และคุณภาพชีวิตในการทำงานด้านสภาพการทำงานที่ปลอดภัย มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านปริมาณงานและด้านความรวดเร็วในการทำงานโดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ เท่ากับ 0.00 อย่างมีระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05

The purpose of this independent study was tostudy the personal factors and the quality of work life factors affecting work efficiency of staffs. The samples consisted of 180 staffs of Inter Realty Management Co., Ltd. (IRM). Descriptive statistics for data analysis included frequency, Percentage, Mean, and Standard Deviation while inferential statistics were Independent Samples t-test, One-Way ANOVA, and Multiple Linear Regressions. The results revealed that gender did not affect work efficiency while age, education, income, job position, and age of work significantly affected work efficiency. The overall opinion on the quality of work life was at high level, and the highest level was from safe working condition aspect. Besides, the opinion on work efficiency was also at high level as an overall, and the highest level was from work quantity aspect. Due to the hypothesis testing, the results showed that the quality of work life in the aspects of safe working condition and working democracy affected work efficiency in terms of work quality with the correlation coefficients of 0.00 and 0.20, respectively. Moreover, the quality of work life in the aspect of safe working condition affected work efficiency in terms of work quantity and fastness with the correlation coefficients of 0.00 at significant level of 0.05.