ปัจจัยที่มีผลต่อการเข้ารับบริการของลูกค้าในสถาบันลดนํ้าหนักสลิมอัพเซ็นเตอร์ในเขตกรุงเทพมหานคร

Abstract

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาปัจจัยทางด้านข้อมูลทั่วไปของสถาบันลดน้ำหนัก ที่มีผลต่อคุณภาพการให้บริการของสถาบันลดน้ำหนัก SLIM UP CENTER (2) เพื่อศึกษาปัจจัยทางด้านส่วนประสมการตลาดบริการ ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านสถานที่บริการ ด้านการส่งเสริมการตลาด ด้านบุคลากร ด้านเครื่องมือเครื่องใช้ และด้านกระบวนการให้บริการ และ (3) เพื่อศึกษาข้อมูลการใช้บริการของผู้รับบริการในสถาบันลดน้ำหนัก SLIM UP CENTER ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้ใช้บริการหรือผู้ที่เคยเข้ารับบริการของสถาบันลดน้ำหนัก SLIM UP CENTER ในเขตกรุงเทพมหานคร ทั้งเพศชายและเพศหญิง จำนวน 400 ตัวอย่าง โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้มีการใช้สถิติเชิงพรรณนาในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สำหรับสถิติเชิงอนุมานที่ใช้ในการทดสอบ ได้แก่ การทดสอบค่าทีแบบอิสระ การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการศึกษาพบว่า ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ของสถาบันลดน้ำหนัก SLIM UP CENTER เป็นเพศหญิง มีอายุ 31-40 ปี สถานภาพโสด การศึกษาปริญญาตรี อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้เฉลี่ย 15,001-30,000 บาทต่อเดือน มีเหตุผลเพื่อต้องการดูแลตัวเอง มีการใช้โปรแกรม Must เป็นการสลายอณูไขมันและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เข้ารับบริการโดยเฉลี่ย 3 ครั้งต่อเดือน โดยตัดสินใจด้วยตัวเองเข้ารับบริการในสาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 4,966 บาทต่อเดือน และการรับบริการเป็นการใช้เครื่องมือในการทำทรีตเม้นต์ สำหรับปัจจัยส่วนประสมการตลาดบริการ และข้อมูลการใช้บริการของสถาบันลดน้ำหนักมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก โดยปัจจัยส่วนประสมการตลาดบริการมีความสัมพันธ์กับข้อมูลการใช้บริการของสถาบันลดน้ำหนัก

The objectives of this study were to (1) to study general factors affecting of Slim Up Center service quality, (2) to study service marketing mix included product, price, place, promotion, personnel affairs, tools and implements and service providing process and (3) to study data on the use of service of service receivers in Slim Up Center. The population and sampling groups used in the research were 400 service users or past users of Slim Up Center in Bangkok Metropolitan areas of both male and female by using Questionnaires as the instruments in data gatherings. Descriptive statistics used were Frequency, Percentage, Mean and Standard Deviation. The inferential statistics used for hypothesis testing were Independent Sample t-test, One-way ANOVA and Pearson Correlation Coefficient. The results showed that the majority of the Slim Up Center users were female with age range from 31 to 40 years old, had single status, had education in Bachelor Degree were employed as employees of private companies, earned average income from 15,001 Baht to 30,000 Baht per month. Their reasons were to maintain their good physical health. A Must Program was regularly used in dissolving cholesterol and increasing muscle mass. They attended the fitness session to receive services with an average of 3 times per month which in most case at their own decisions. They mostly received service at Lardpraow Branch with average expenses of 4,966 Baht per month and that the services are rendered by using instruments for treatments. As for the service marketing mix and service usage of the Slim Up Center, the average mean were in high level. The hypothesis testing showed that service marketing mix factor had relationship with service usage of the Slim Up Center.